• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

ตับมีปัญหา เป็นเพราะว่า ? รักษาได้ยังไง ?

Started by Fern751, January 06, 2023, 10:44:56 AM

Previous topic - Next topic

Fern751

ตับมีปัญหา จำเป็นต้องรีบหาทางแก้ รีบดูแล บำรุง รักษาให้กลับมาแข็งแรงอีกรอบ เนื่องจากว่าถ้าหากปล่อยไว้ให้ไขมันพอกตับ หรือปล่อยให้ตับอักเสบกระทั่งเรื้อรัง ก็เป็นบ่อเกิดของโรคตับแข็ง รวมทั้งโรคมะเร็งตับได้เช่นเดียวกัน โดย Rohit Satoskar กรรมการผู้จัดการจาก MedStar Georgetown สถาบันปลูกถ่ายมีชื่อ กล่าวย้ำเตือนถึงจุดสำคัญของตับเราเอาไว้ว่า "ตับ เป็นอวัยวะที่ง่ายต่อการเสียหาย ถ้าเกิดคุณไม่ดูแลมันให้ดี.. และเมื่อมันเสียหายไปแล้วครั้งหนึ่ง มันก็ไปลับ ไม่อาจหวนกลับมาดังเดิมได้" แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าตับกำลังประสบปัญหา แล้ว สาเหตุ ตับมีปัญหา มาจากอะไร..? และควรดูแลบำรุงยังไง..? บทความนี้มีคำตอบให้คุณ  อวัยวะ "ตับ" ก็เป็นเสมือนศูนย์กลางขนาดใหญ่ ทั้งเป็นโรงงานเก็บผลิตภัณฑ์ (เก็บกักสารอาหารต่างๆ) เป็นทั้งโรงงานการผลิต (สร้างโปรตีน สร้างลิ่มเลือด ฯลฯ) และยังเป็นโรงงานแปรรูป (จากคาร์โบไฮเดรตไปเป็นน้ำตาล ที่ร่างกายจะนำไปใช้เป็นพลังงาน) ถ้าเกิดร่างกายขาดหัวใจแล้วต้องตาย..ร่างกายที่ขาดตับก็เสมือนตายทั้งเป็น คำบอกเล่าที่ว่าตับเป็นเสมือนหัวใจดวงที่สองของร่างกาย จึงไม่ได้เกินเลยแต่อย่างใดหน้าที่ของตับ มีอะไรบ้าง ?ในส่วนของการผลิต
- สร้างโปรตีนที่จำเป็นต่อสุขภาพร่างกาย ซ่อมบำรุงส่วนที่สึกหรอ
- สร้างโปรตีนซึ่งทำให้เลือดเราแข็งตัว อย่างไฟบริโนเจน (Fibrinogen) โดยจะถูกสังเคราะห์ขึ้นที่ตับ
- สร้างโปรตีนที่ทำหน้าที่ เป็นส่วนประกอบของเลือด ดังเช่นว่า อัลบูมิน ที่ช่วยอุ้มน้ำสารอาหารและก็เกลือแร่เอาไว้ในหลอดเลือด
- สร้างน้ำดี ย่อยสลายไขมัน รวมถึงมีส่วนช่วยในระบบเผาผลาญร่างกาย
- สร้างสารชนิดไขมัน รวมทั้งถึงสารเริ่มต้นของฮอร์โมนบางประเภท
ในส่วนของการกักเก็บ
- ตับจะเป็นแหล่งกักเก็บไกลโคเจน เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานนำไปให้ร่างกายใช้
- เก็บวิตามินรวมทั้งเกลือแร่บางชนิดที่จำเป็น
ในส่วนของการแปรรูปและอื่นๆ
- ตับคอยดัดแปลง ของกินและยาให้อยู่ในรูปที่ร่างกายสามารถนำเอาไปใช้งานได้
- ชวยล้างพิษ กรองพิษในเลือด
- ขับของเสียออกมาจากร่างกายในแบบฉี่ หรือขับถ่ายมาพร้อมกับน้ำดี  สาเหตุ ตับมีปัญหา
จริงแล้วการที่ตับพัง หรือตับต้องประสบเจอกับปัญหาเสื่อมโทรมสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัยทั้งยังจากเชื้อไวรัส หรือโรคที่มีต้นเหตุมากจากกรรมพันธุ์ตั้งแต่กำเนิด แต่ว่าหลักๆที่ทำให้คนโดยมากมีการอักเสบที่ตับ ค่าตับสูง มักมีสาเหตุจากการกระทำทำร้ายตับเป็นต้นว่า
1.ดื่มแอลกอฮอล์
2.ชอบรับประทานอาหารไขมันสูงอย่างของมัน ของทอด
3.ทำงานมาก มีความตึงเครียด
4.ชอบนอนดึก ตื่นสาย
5.กินยาหรืออาหารเสริมเยอะเกินไป
6.ขาดการบริหารร่างกาย
7.นั่งหรือนอนอยู่กับที่เป็นเวลานาน (เกิน 2 ชั่วโมง)
8.ไม่กินอาหารเช้า
9.ชอบกินอาหารดิบๆสุกๆ
10.ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับ สารพิษ สารเคมี
11.มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันกับหลายบุคคลเหล่านี้ล้วนเป็นหนึ่งในพฤติกรรมทุกวันซึ่งเราบางครั้งอาจจะเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องพบ ก็เลยปฏิเสธไม่ได้เลยว่า "ตับ" ของเรานอกจากจะทำงานหนัก 1 วันแล้ว ยังไม่วายถูกทำร้ายในวันแล้ววันเล่าอีกด้วย โดยเราอาจจะลองดูอาการที่เป็น สาเหตุ ตับมีปัญหา ผ่านสัญญาณที่ร่างกายส่งออกมา เช่น มีลักษณะอาการเหนื่อยง่าย อ่อนล้า , มีปัญหาสำหรับในการนอนหลับ , ท้องอืดเสมอๆ, ปวดจุกแน่นที่ชายโครงขวา , ความอยากอาหารลดน้อยลง , แขนขา ท้องบวมโต ฯลฯแม้คุณเริ่มมีหนึ่งในอาการดังกล่าวแล้วยังปล่อยปละละเลยกลับมาดูแลตับอีก.. รู้ตัวอีกทีความน่ากลัวของโรคตับก็จะแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัดก็ในขั้นรุนแรงอย่างตอนเป็นโรคตับแข็ง หรือโรคมะเร็งตับไปเสียแล้ว  การรักษาตับเบื้องต้น
"ตับ" เป็นอวัยวะที่สามารถฟื้นฟูตนเองได้ โดยทางด้านทฤษฎีถ้าหากเราตัดตับทิ้งไป 3 ส่วน เจ้าตับเองก็สามารถฟื้นฟูกลับไปเป็นรูปร่างแบบเดิมได้ภายในไม่กี่อาทิตย์ เพราะฉะนั้นเมื่อเราเผลอมีพฤติกรรมทำร้ายตับแบบไม่รู้ตัว ตับเองก็ฟื้นฟูตนเองได้ แต่ไม่ได้แปลว่าคุณจะใช้งานมันอย่างหนักหน่วง หรือเฉยเมยให้ตับถูกทำร้ายโดยไม่ใส่ใจได้ เพราะถ้าตับอักเสบซ้ำๆจนเกิดพังผืดเกาะกินกลายเป็นตับแข็ง ตับก็หมดสิทธิ์ฟื้น ยิ่งมะเร็งยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง.. สิ่งจำเป็นที่สุดคือ การเอาใจใส่บำรุงตับเพื่อคุ้มครองไว้ก่อน ดีกว่าที่จะตามไปรักษาในตอนหลังเมื่อเรามีพฤติกรรมที่ทำร้ายตับ ก็ควรเริ่มเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ให้ตับได้แข็งแรงมากขึ้น
(1) ปรับพฤติกรรมการกินอาหาร
ลดของกินไขมันสูง ของทอด ของมัน
ในส่วนเนื้อสัตว์เน้นไปที่เนื้อปลา หรือเนื้อไก่ แทนพวกเนื้อสีแดง (อย่างเนื้อหมู หรือเนื้อวัว) เพื่อลดจำนวนไขมันอิ่มตัวที่จะได้รับ
หลีกเลี่ยงอาหารหวาน เค็มจัด ใช้พวกเครื่องเทศให้กลิ่นและรสแทนน้ำตาลรวมทั้งผงชูรส
กินอาหารปรุงสุก รักษาสุขลักษณะ ลดความเสี่ยงสำหรับการติดเชื้อไวรัส(2) หมั่นขยับร่างกายเสริมความแข็งแกร่งให้ตับ
บริหารร่างกายให้ได้ 150 นาที/อาทิตย์ (หรืออย่างน้อย 60 นาที/สัปดาห์)
ขณะทำงานหาเวลาลุกเดิน 5-10 นาที หรือปรับเปลี่ยนอริยาบททุก 1-2 ชั่วโมง
ฝึกฝนการหายใจเข้า-ออกลึกๆ เพื่อให้ออกซิเจนเข้าไปกำจัดของเสียในเลือด รวมถึงก๊าซ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็ช่วยในระบบหมุนเวียนเลือดได้(3) เลี่ยงการรับสิ่งเสพติด หรือสารเคมี
ในกรณีที่ไม่อาจจะเลิกได้ พยามยามลดการดื่มแอลกอฮอล์ หรือการสูบยาสูบให้น้อยลงที่สุด
หลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง หรือบริเวณที่มีการแปดเปื้อนของสารเคมี รอบๆที่มีฝุ่นควัน มลภาวะหนาแน่นถ้าหากปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตได้ ตับย่อมกลับมาแข็งแรงทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเหมือนเดิม เพิ่มเติมเป็นถ้าหากมีความคิดว่าพฤติกรรมเหล่านี้เราอาจทำเป็นยาก ลองดูเคล็ดลับน่าสนใจ ที่จะสามารถช่วยคลีนตับเราได้กัน..  เคล็ด(ไม่)ลับน่าสนใจ คู่การดูแล ตับมีปัญหา
"เรื่องกิน..เรื่องใหญ่" อาหารที่เรารับเข้าไปในแต่ละวันก็ก่อกำเนิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวงให้แก่ตับได้เช่นเดียวกัน ซึ่งทานเข้าไปแล้วตับจะดียิ่งขึ้นหรือแย่ลง ก็ขึ้นกับว่าเรากินอะไรลงไป.. และก็นี่คือ 3 ตัวช่วยน่าสนใจซึ่งสามารถคลีนตับที่มีปัญหาของเราได้ตัวช่วยแรก #ซูเปอร์เครื่องเทศ - กระเทียม
ถึงจะพบเจอได้ตามตลาดทั่วๆไป เปิดตู้แช่เย็นเราก็เจอ แต่เครื่องเทศที่ดูบ้านๆนี้ซ่อนเร้นไปด้วยสรรพคุณที่ไม่ได้บ้านตาม โดยกระเทียมจะช่วยกระตุ้นกระบวนการดีท็อกซ์ และก็ป้องกันตับจากสารพิษ รวมถึง Advanced Biomedical Research (2016) ยังได้เผยแพร่งานวิจัยว่ากระเทียมผงช่วยสำหรับในการลดไขมันในผู้ที่มีสภาวะไขมันพอกตับได้อีกด้วยตัวช่วยสอง #ซูเปอร์ฟรุ๊ต - พรูนัส มูเม่
หากแม้ชื่อจะไม่เคยได้ยินคนอีกหลายๆคน แต่มันคือสารสกัด ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่จากประเทศฝรั่งเศสซึ่งช่วยลดการสะสมของไขมันส่วนเกินในตับ และก็ลดอาการอักเสบของตับได้ โดยจะมีสารสำคัญในการออกฤทธิ์คือ กรดโอลีโนลิกรวมทั้งกรดเออโซลิก ซึ่งมีคุณลักษณะเพิ่มกระบวนการเมตา.ิซึมในตับ รวมทั้งสามารถลดไขมันเลวเพิ่มไขมันดี ซึ่งส่งผลให้ตับมีร่างกายแข็งแรง ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตัวช่วยสาม #ซูเปอร์เครื่องดื่ม - ชาเขียว
ชาเขียวนับว่าเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยคลีนตับชั้นเลิศ โดยในปี 2015 The World Journal of Gastroenterology มีการศึกษาวิจัยว่า ชาเขียว ช่วยลดระดับไขมันในเลือดตลอดจนถึงส่วนต่างๆภายในร่างกาย ทั้งยังพบว่า คนที่ดื่มชาเขียวปริมาณ 5 - 10 แก้วต่อวัน สามารถช่วยลดไขมันพอกตับได้อีกด้วย แล้วก็ยิ่งชงอ่อนๆจิบเบาๆตลอดวันยังช่วยดีท็อกซ์ชำระล้างพิษได้อีกด้วยสรุป
ตับมีปัญหา ปล่อยปัญหาไว้ก็จะยิ่งสะสมกระทั่งโรคร้ายอาจถามหาแบบไม่รู้ตัว เมื่อต้องใช้ชีวิตและก็มีพฤติกรรมทำร้ายตับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตัวช่วยดีๆหรือการปรับพฤติกรรมก็เป็นสิ่งสำคัญที่สามารถป้องกันและก็ลดความเสี่ยงในการเป็น ตับแข็ง หรือมะเร็งตับ โรคยอดฮิตที่เอาชีวิตคนไทยกันติดท็อป 5 ของไทยเรากันเลยทีเดียว"สู้เพื่อตับวันนี้..ชีวิตดีวันหน้า" สุขภาพร่างกายที่แข็งแรงเราสร้างขึ้นเองได้.. โดยถ้าสงสัย หรือมีปัญหาสุขภาพตับอยากขอคำแนะนำผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ ขอรับคำปรึกษาหารือปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพกันได้ฟรีๆที่ Fanpage และ Line : @ Hepheka ซึ่งจะมีทีมผู้เชี่ยวชาญและเภสัชกรพร้อมให้คำแนะนำคุณในตลอดเวลา