7 แนวทางรับมือกับ แรงกดดัน แบบคนฉลาดหลักแหลม

[Hanako5]

ความกดดัน จำนวนมากแล้วบางครั้งอาจจะไม่ได้มาจากผู้อื่น แต่ว่ามันชอบเกิดขึ้นเพราะเหตุว่าตัวคุณเอง ด้วยหน้าที่รับผิดชอบ หน้าที่ของสังคมต่างๆทำให้คุณจำเป็นต้องไม่สบายใจและก็กลัวว่าจะทำหน้าที่ออกมาได้ไม่ดีไหมเสร็จ

ควรเป็นลูกที่ดีของแม่ เป็นพี่สาวที่คอยดูแลน้องๆเป็นภรรย าที่น่ารักน่าเอ็นดู และก็เป็นหัวหน้าทีมในออฟฟิศ ความต้องการทุกอย่ างทั้งยังเรื่องเวลา เงิน แล้วก็ความรับผิดชอบที่จะต้องมีมากยิ่งขึ้นทุกเมื่อเชื่อวัน อาจก่อให้คุณบีบคั้นตัวเองจนกระทั่งไม่เคยรู้เ นื้ อ รู้ตัว! แต่พวกเรามีแนวทางดีๆมาให้คุณได้ลองทำกัน เพื่อคุณรับมือกับมันแล้วก็ก้าวไปด้านหน้าได้อย่ างมั่นดวงใจ

1.รู้สึกตัวเองเมื่อรู้สึกบีบคั้น

ทำงานมากๆแล้วรู้สึกกระวนกระวายใจ หายใจเร็ว วิงเวียน หัวร้อน และระเบิดลง ตู้ม! หลายๆคนชอบรู้สึกบีบคั้นโดยที่ไม่รู้ตัว แต่ต้องทราบไว้ว่าหากคุณกำเนิดอาการเหล่านี้ขึ้นเมื่อไร

คุณก็ตกอยู่ในสภาวะบีบคั้นซะแล้วล่ะ แถมหากไม่รีบปรับปรุง บางทีก็อาจจะทำให้เกิดผลกระทบกับตัวคุณ ได้แก่ ป่ ว ย หลายครั้งขึ้น ป ว ดเมื่อยล้า ท้องผูก ปฏิบัติงานได้ไม่เต็มที่ กินเยอะแยะหรือไม่เพียงพอ ความปรารถนาทางเพศลดลดน้อยลง

2.รู้ที่มาของความกดดัน

เมื่อรู้แล้วว่าตัวเองรู้สึกบีบคั้น ถัดมาคือจำเป็นต้องกำหนดให้ได้ว่าที่มาของแรงกดดันนี้เป็นยังไง เนื่องจากเมื่อตอนนี้รู้แล้วเราอาจจะเปลี่ยนแปลงสิ่งกลุ่มนี้ให้เปลี่ยนเป็นแง่ดีได้

มูลเหตุบางทีก็อาจจะเป็นงานของคุณที่เพิ่งส่งหัวหน้าไปแต่โดนแก้มามากมาย หรืออาจจะเกิดจากตัวคุณเองที่อยากเป็นคนที่เพอร์เฟ็ค ไม่ยอมให้แม้กระทั้งเรื่องกล้วยๆๆน้อยๆบกพร่อง

3.หาวิธีที่แก้ไขในสิ่งที่คุณควบคุมได้

คุณจำต้องแยกให้ออกว่าปัญหาไหน "สามารถปรับแต่งได้" รวมทั้งปัญหาไหน "ไม่สามาถปรับแต่งได้" แล้วก็ให้เริ่มลิสต์ปัญหาที่ตัวคุณสามารถคลี่คลายได้และจัดการกับมัน

ด้วยการสร้างตัวเลือกที่ใช้สำหรับการแก้ไขปัญหาแต่ละอย่ าง วางแผน อย่ างถ้วนถี่รวมทั้งประเมินตัวเองว่าคุณพึงพอใจกับมันหรือไม่ ถ้าหากไม่ชอบใจ ก็กลับไปที่ตัวเลือกแล้วก็คิดแผนให้ดีอีกครั้ง

4.จัดลำดับความสำคัญของงาน

ผู้คนจำนวนมากชอบคิดว่า ยิ่งทำงานให้ได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี แต่ว่านั่นก็จะยิ่งทำให้พวกเรารู้สึกบีบคั้นได้อย่างง่ายๆกรรมวิธีการจัดการกับตัวคุณเองกล้วยๆก็คือจะต้องเรียงลำดับจุดสำคัญ

ของงานหรือกิจกรรมต่างๆว่าควรจะทำอะไรเสร็จหลังหรือก่อน และย่อยออกมาเป็นขั้นตอนเล็กๆนอกเหนือจากที่จะช่วยทำให้ปรับเป็นระบบระเบียบปฏิบัติเพิ่มมากขึ้นแล้วก็ยังช่วยให้เราไม่ทำงานหนักเกินความจำเป็นอีกด้วยล่ะ

5.ฝึกมอบหมายงานให้ผู้อื่น

ผู้ที่กดดันได้ง่ายมักจะเป็นผู้ที่ชอบความ perfect และก็จะเอางานทุกอย่ างมากองไว้บนหัวตนเอง พย าย ามควบคุมทุกอย่ าง ลองมอบงานเล็กๆในตารางงานของคุณให้ผู้ที่พร้อม

โดยบอกรายละเอียดดังที่คุณปรารถนาอย่ างแจ่มชัด การมอบอำนาจงานให้คนอื่นๆ ทำให้คุณสามารถดำเนินการได้อย่ างดี แม้จะอยู่ในภาวะที่มีความเ ค รี ย ด สูง โดยไม่เสียมาตรฐานของตัวเองด้วย

6.ลองกล่าวว่า "ไม่" มองบ้ า ง

ชีวิตบางบุคคลขึ้นอยู่กับความเกรงใจคนอื่นๆมากเกินไปจนกระทั่งตนเองก็แทบจะไม่ไหวแล้ว ปฏิเสธใครกันแน่ไม่เป็นจนกระทั่งกลายเป็นนิสัยทำให้ตนเองกำเนิดความกดดันขึ้นโดยไม่ได้คาดคิด เราก็เลยอย ากให้คุณทดลองปฏิเสธบุคคลอื่นมองบ้ า ง คุณอาจจะคิดว่าการพูดคำว่า "ไม่" จะเป็นการตัดช่องทางต่างๆหรืออนาคตออกมาจากชีวิตคุณ แม้กระนั้นจริงๆแล้ว

การปฎิเสธจะเป็นตัวช่วยสำคัญในการจัดอันดับจุดสำคัญของจังหวะ เพื่อให้คุณได้ใช้เวลารวมทั้งความถนัดของคุณไปอย่ างมีสมรรถนะ กรรมวิธีการคือให้ลองถามตัวเองว่า


"ฉันอย ากทำมันจริงๆหรือเปล่า มันสำคัญกับจุดหมายของฉันไหม" ฉันพูดคำว่า "ได้" เพราะรู้สึดผิดหรือเป็นเพราะว่าหน้าที่หรือเปล่า? ลองตอบคำถามของตัวเองรวมทั้งทดลองบอกว่า "ไม่" มองบ้ า ง

7.หยุดติชมรวมทั้งย้อนยอกตนเอง

การพูดแ ย่ๆกับตัวเอง อาจส่งผลให้เกิดความโกรธเคือง แล้วก็เปลี่ยนเป็นความผิดหวังท้ายที่สุด หยุดเสียงในหัวนั้นไว้ และเปลี่ยนแปลงมันให้แปลงเป็นพ ลั ง บวกดีมากยิ่งกว่า โดยให้เขียนว่าแต่ว่าล่ะวัน

คุณวิจารณ์ตัวเองว่าอะไรบ้ า ง เป็นต้นว่า ฉันมันเฮงซวยที่ทำเรื่องนี้ไม่ได้ แล้วเพราะเหตุใดคุณถึงคิดแบบนี้ ต่อจากนั้น ทดลองคิดว่าถ้าเพื่อนพ้องมาขอความเห็นจากคุณในแบบเดียวกัน คุณจะเสนอแนะเขาอย่ างไร คุณจะแก้ในสิ่งที่เขาคิดไหม หรือจะบอกข้อดีในตัวเขาให้เขาได้ทราบตัว ทดลองฝึกหัดแบบนี้กับตนเองก็จะช่วยได้อย่ างมาก
รับมือ
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13445/
คำค้นหา : คนเก่ง