• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

จัดทัวร์นำเที่ยวหลวงพระบาง3วัน2คืน รถตู้ รถบัส สอบถาม โทร 0832743757 , 0837141960

Started by Naprapats, December 23, 2023, 04:21:01 PM

Previous topic - Next topic

Naprapats

ไฮไลท์โปรแกรมทัวร์หลวงพระบาง
เดินทางสบาย รับส่งสนามบินหลวงพระบาง
เต็มอิ่มกับ เมืองมรดกโลกหลวงพระบาง
ร่วมใส่บาตรข้าวเหนียว พระสงฆ์กว่า 300 รูป
วัดเชียงทอง
วัดวิชุน พระราชวังเก่าหลวงพระบาง
ล่องเรือแม่น้ำโขง ชม ถ้ำติ่ง
ช๊อปปิ้ง ถนนคนเดินหลวงพระบาง วันที่หนึ่ง :  สนามบินหลวงพระบาง - พระราชวังเก่า - พระธาตุพูสี
ช่วงบ่าย  เดินทางถึงสนามบินเมือง หลวงพระบาง ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ แล้วเข้าสู่ตัวเมืองหลวงพระบางเดินทางสู่ พระราชวังหลวงพระบาง เป็นวังที่ เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ทรงประทับอยู่ที่นี่จนสิ้นพระชนม์ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อปี พ.ศ.2518 พระราชวังก็ได้ถูกเปลี่ยนเป็น พิพิธภัณฑ์ ประกอบด้วย หอฟังธรรม ห้องรับแขกของเจ้ามหาชีวิตและพระมเหสี ห้องท้องพระโรง ทางด้านหลังก็เป็นพระตำหนักซึ่งมีเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ จัดเก็บไว้เป็นระเบียบเรียบง่าย และนำท่านนมัสการหอพระบาง ซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของหลวงพระบาง เป็นพระพุทธรูปประทับยืน ปรางค์ห้ามสมุทร เป็นพระพุทธรูปศิลปะขอมสมัยหลังบายน น้ำหนัก 54 กก. ประกอบด้วยทองคำ 90% และยังมีพระพุทธรูปนาคปรกสลักศิลาศิลปะขอมอีก 4 องค์ประดิษฐานอยู่ จากนั้นตรงข้ามพระราชวังนำท่านเดินขึ้นบันได 328 ขั้นสู่ พระธาตุพูสี สองข้างทางร่มรื่นด้วยต้นดอกจำปา ภูษีนี้ หมายถึง "ภูศรี" คือเป็นศรีของเมืองหลวงพระบางนั่นเอง ตั้งโดดเด่นกลางใจเมืองมีจุดชมวิวก่อนถึงยอดพระธาตุ มองเห็นวัด บ้านเรือน ทอดยาวขนานกับแม่น้ำโขงจรดปากแม่น้ำคาน ยอดสูงสุดของภูษี อยู่บนพื้นที่ราบแคบๆ ตัวพระธาตุเป็นทรงดอกบัวสี่เหลี่ยมทาสีทอง ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมยอดประดับด้วยเศวตฉัตรทองสำริด 7 ชั้น สูงประมาณ 21 เมตร จะสวยมากในยามบ่ายแก่ๆ แบบนี้แสงแดแจะส่ององค์พระธาตุเป็นสีทองสุกปลั่ง มีทางเดินรอบองค์พระธาตุ สามารถชมทิวทัศน์ตัวเมืองหลวงพระบางได้เกือบรอยเลยทีเดียว ให้ท่านได้ชมพระอาทิตย์ทิ้งดวงยอมเย็นที่นี่เพื่อเก็บไว้เป็นภาพประทับใจ
 18.00 น. รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 1)  พร้อมนำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักในหลวงพระบาง และพักผ่อนตามอัธยาศัย
 วันที่สอง:  ถ้ำติ่ง – บ้านซ่างไห – น้ำตกตาดกวงชี – บ้านผานม – ตลาดมืด
05.00 น. ตื่นเช้าซักหน่อยร่วม ทำบุญ-ตักบาตร กับชาวหลวงพระบาง ทุกๆเช้าชาวหลวงพระบางทุกบ้านจะพากันออกมานั่งรอตักบาตรพระสงฆ์ที่เดินเรียง แถวเดินมาตามถนนเป็นร้อยๆ รูป ซึ่งเป็นภาพยามเช้าที่มีชีวิตชีวาของหลวงพระบางโดยสะท้อนถึงวิถีชีวิตของ สังคมอันสงบสุข และความเลื่อมใสศรัทธาที่มีต่อพุทธศาสนาที่หยั่งรากลึกลงในวัฒนธรรมของชาว ล้านช้าง (เป็นการตักบาตรข้าวเหนียว และ อาหารแห้ง)
07.00 น.รับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 2) ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
09.00 น.เดินทางไปหมู่บ้านช่างไห เพื่อลงเรือเดินทางชมวิวทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำโขง ถ้ำติ่ง  ซึ่งเป็นถ้ำอยู่บนหน้าผาริมแม่น้ำโขงมีอยู่ 2 ถ้ำ คือ ถ้ำล่างและถ้ำบน ถ้ำติ่งลุ่ม หรือ ถ้ำล่างสูง 60 เมตรจากพื้นน้ำ มีลักษณะเป็นโพรงน้ำตื้นๆ มีหินงอกหินย้อย มีพระพุทธรูปไม้จำนวนนับ 2,500 องค์ ส่วนใหญ่จะเป็นพระยืน มีทั้งปางประทานพร และปางห้ามญาติ ถ้ำติ่งบน จะไปทางแยกซ้ายเดินขึ้นบันไดไป 218 ขั้น ปากถ้ำไม่ลึกมากมีพระพุทธรูปอยู่ในถ้ำแต่ไม่มากเท่าถ้ำล่าง สมัยโบราณเป็นที่สักการะบวงสรวงดวงวิญญาณ ผีฟ้า ผีแถน เทวดาผาติ่ง ต่อมาพระเจ้าโพธิสารทรงเลื่อมใสพระพุทธศาสนาเป็นผู้นำพระพุทธรูปเข้ามา และจึงทรงใช้ถ้ำติ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนา แล้วล่องเรือกลับ ก่อนถึงตัวเมืองหลวงพระบางแวะ บ้านช่างไห ชมวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำโขง มีอาชีพในการหมักสาโท และต้มเหล้าขาว จำหน่ายและยังเป็นแหล่งรวมสินค้าพื้นเมืองจำพวก ผ้าทอลวดลายสวยงามมากมาย เครื่องเงิน วางจำหน่ายอย่างเป็นระเบียบ ชมความร่วมมือของชาวบ้านที่ได้จัดแต่งลานบ้าน อย่างสวยงามเพื่อรอรับนักท่องเที่ยว ได้เวลาพอสมควรลงเรือเดินทางกลับสู่ตัวเมืองหลวงพระบาง
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 3 ) ณ ร้านอาหาร 
13.00 น. นำเดินทางผ่านหมู่บ้านชนบท ชมวิถีชีวิตของชาวบ้านสู่ น้ำตกตาดกวางสี ห่างจากหลวงพระบาง 30 กิโลเมตร ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ หนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดในเขตหลวงพระบาง ชมความงามของน้ำตกที่ตกลดหลั่นเป็นชั้นๆ อย่างสวยงามแต่ละชั้นเกิดจากการผสมของหินปูนสูงราว 70 เมตร มี 2 ชั้น สภาพป่าร่มรื่น มีสะพานและเส้นทางเดินชมรอบๆ น้ำตก จากนั้นนำท่านเดินทางกลับหลวงพระบาง โดยแวะช้อปปิ้งผ้าพื้นเมืองที่ บ้านผานม เป็นหมู่บ้านชาวไทลื้อ มีฝีมือในการทอผ้าอย่างสวยงาม อดีตเป็นแหล่งทอผ้าถวายแด่เจ้ามหาชีวิต ปัจจุบันผ้าทอจากบ้านผานมนี้มีชื่อเสียงมาก และมีการรวมกลุ่มตั้งเป็นศูนย์หัตถกรรมแสดงสินค้า และยังมีการสาธิตให้ท่านชมด้วย 

18.00 น. รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 4) ณ ร้านอาหาร
 
หลัง อาหารท่านสามารถเดินเที่ยวชม ถนนข้าวเหนียว ของหลวงพระบาง หรือ ตลาดมืด เลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองไว้เป็นของฝากหรือเป็นที่ระลึก *** อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย ***
 วันที่สาม :วัดเชียงทอง – วัดวิชุนราช – วัดใหม่สุวรรณภูมาราม – สนามบินหลวงพระบาง07.00 น.รับประทานอาหารเช้า(มื้อที่ 5) ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
08.00 น.นำท่านเที่ยวชม วัดเชียงทอง เป็นวัดหลวงคู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบาง สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชก่อนที่จะย้ายเมืองหลวงไปเวียงจันทน์ และยังได้รับการอุปถัมภ์จากเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ และเจ้าชีวิตศรีสว่างวงศ์วัฒนา กษัตริย์สองพระองค์สุดท้ายของลาว บริเวณที่ตั้งของวัดอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของตัวเมืองหลวงพระบาง ใกล้บริเวณที่แม่น้ำคานไหลมาบรรจบกันกับแม่น้ำโขง มีพระอุโบสถ หรือภาษาลาวเรียกว่า "สิม" เป็นหลังไม่ใหญ่โตนัก หลังคาพระอุโบสถแอ่นโค้งและลาดต่ำลงมาก ซ้อนกันอยู่ 3 ชั้น เป็นศิลปะแบบหลวงพระบาง ส่วนกลางมี ช่อฟ้า ประกอบด้วย 17 ช่อ ซึ่งเป็นที่สังเกตุกันว่า เป็นวัดที่พระมหากษัตริย์สร้างขึ้นจึงมี 17 ขั้น ส่วนสามัญจะสร้างกันแค่ 1-7 ช่อ เชื่อกันว่าจะเก็บของมีค่าไว้ในนั้นด้วย ส่วนหน้าบัน หรือภาษาลาวว่า "โหง่" เป็นรูปเศียรนาค ความงามของวัดอยู่ที่ความสงบสง่าสะอาดมีการวางผังออกแบบและบำรุงรักษาอย่างดีเยี่ยมจากนั้นนำท่านเข้าชม วัดวิชุนราช สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าวิชุนราช ในปี พ.ศ.2046 สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบาง ซึ่งอาราธนามาจากเมืองเวียงคำ มีเจดีย์ปทุมหรือพระธาตุดอกบัวใหญ่ วัดนี้มีพระธาตุเจดีย์องค์ใหญ่รูปทรงคล้ายแตงโมผ่าครึ่ง ทำให้ชาวลาวเรียกกันว่า พระธาตุหมากโม เป็นทรงโอคว่ำ ยอดพระธาตุลักษณะคล้ายรัศมีแบบเปลวไฟของพระพุทธรูปแบบลังกาหรือสุโขทัย เจดีย์นี้อาจดูทรุดโทรมมากแม้จะมีการปฏิสังขรณ์มา 2 ครั้งแล้วในปี พ.ศ.2402 ในสมัยพระเจ้าสักกรินทร์(คำสุก) ซึ่งเป็นพระราชบิดาของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ได้โปรดให้มีการบูรณะใหม่และได้มีการบูรณะครั้งใหญ่ในปี พ.ศ.2457 ในรัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ได้ค้นพบโบราณวัตถุมีค่ามากมาย เช่น เจดีย์ทองคำ พระพุทธรูปหล่อสำริด พระพุทธรูปทองคำ ปัจจุบันนำไปเก็บไว้ในหอพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง ในพระราชวังหลวงจนปัจจุบัน จากนั้นนำท่านไปนมัสการ วัดใหม่สุวันพูมา ซึ่งอยู่ถนนศรีสว่างวงศ์ติดกับพระราชวังหลวง สร้างในสมัยพระเจ้าอนุรุท ในปี พ.ศ.2337 หรือชื่อสั้นๆว่า วัดใหม่ วัดนี้เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสัฆราชบุญทัน นับเป็นสังฆราชองค์สุดท้ายของลาว มีอุโบสถที่สวยงามด้วยศิลปะแบบ อูบมุง และปัจจุบันใช้เป็นโรงเรียนปริยัติธรรม
12.00 น  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่6)
13.00 น. นำคณะส่งท่านที่สนามบินหลวงพระบาง อำลาเมืองมรดกโลก โดยสวัสดิภาพ