1. ตรวจประวัติรวมทั้งดูผลงาน
จุดเริ่มแรกที่สำคัญที่สุดของการตามหาบริษัทรับสร้างบ้านที่ดีนั้นเป็น การค้นหาและก็เลือกสรรบริษัทรับเหมาสร้างบ้านที่มีมาตรฐานและมองน่าไว้วางใจ ด้วยการตรวจประวัติความเป็นมาแล้วก็ดูผลงานการก่อสร้างก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ไม่ว่าคุณจะทดลองค้นหาชื่อบริษัทจากในอินเทอร์เน็ต หรือทดลองสอบถามประสบการณ์จากเพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียงที่เคยใช้บริการ คุณก็จะได้ข้อมูลคร่าวๆก่อนจะเริ่มเสวนารายละเอียดกับผู้รับเหมาก่อสร้างที่น่าดึงดูดและรู้สึกจะเข้าท่าจริงๆกับบ้านในฝันของคุณ
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/100-23475a9fdd896f73d.jpg)
2. ขอใบเสนอราคาก่อสร้าง
ภายหลังหาผู้รับเหมาก่อสร้างที่สนใจได้สัก 2-3 รายแล้ว คุณต้องแจ้งเนื้อหาการก่อสร้างรวมทั้งขอใบเสนอราคาจากผู้รับเหมา เพื่อให้รู้มูลค่าการก่อสร้างทั้งหมดที่คุณต้องจ่าย ซึ่งอาจรวมถึงเนื้อหาและก็มาตรฐานของอุปกรณ์ที่ใช้ แล้วนำใบเสนอราคาทั้งหมดทั้งปวงมาเปรียบก่อนที่จะตัดสินใจ ซึ่งการเสนอราคาก็สามารถสะท้อนให้มองเห็นถึงมาตรฐานแนวทางการทำงานของผู้รับเหมาได้ แล้วก็คุณก็จะได้เลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่ดีในราคาที่เหมาะสมจากขั้นตอนนี้เอง
(https://img2.pic.in.th/pic/163ab6abcb1755da293.jpg)
3. ต้องมีสัญญาว่าจ้างที่แจ้งชัด
เมื่อถูกใจกับราคาที่ผู้รับเหมาสร้างบ้านเสนอมาแล้ว ก็ได้เวลาของการตกลงว่าจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร ห้ามตกลงงานกันปากเปล่าเด็ดขาด โดยบริษัทรับสร้างบ้านที่มีคุณภาพจะเป็นผู้เสนอสัญญาจ้างให้คุณเองเลยโดยไม่ต้องขอ ซึ่งในข้อตกลงควรจะมีการกำหนดถึงกรอบช่วงเวลาการก่อสร้าง สิ่งของที่ใช้ การแบ่งชำระเป็นงวดตามความก้าวหน้าของงาน มีเงื่อนไขการรับประกันการก่อสร้าง และถ้าหากมีพาร์ตเนอร์ที่รับช่วงต่อในงานที่ผู้รับเหมาก่อสร้างไม่ถนัด ก็จำเป็นต้องระบุในข้อตกลงด้วย
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/2262dd462b1e37b7acf.jpg)
4. มีมาตรฐานสำหรับในการปฏิบัติงาน
แม้ว่าคุณจะอุตสาหะหาผู้รับเหมาให้ดียังไง ในที่สุดมาตรฐานที่จริงจริงก็จะเห็นได้เมื่อเริ่มงาน โดยผู้รับเหมาที่มีมาตรฐานนั้นจะต้องคิดแผนงานให้คุณรู้อย่างเป็นระบบ แม้เป็นงานใหญ่จำต้องส่งวิศวกรหรือนักออกแบบของผู้รับเหมาก่อสร้างมาให้การดูแลถึงหน้างาน รวมทั้งที่จำเป็นมากเป็นเอกสารรายจ่ายวัสดุ (Bill of Quantities หรือ BOQ) ที่บ่งบอกถึงถึงการใช้วัสดุและค่าใช้จ่ายระหว่างก่อสร้าง ซึ่งถ้าผู้รับเหมาตกมาตรฐานไหนไป คุณจำเป็นต้องเรียกหาโดยทันทีอย่าได้ช้า
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/255-2.jpg)
5. มีผู้เชี่ยวชาญตรวจทานงาน
การตรวจรับงานไม่ใช่แค่คนรับเงินมาเดินตามติดคุณแล้วชี้ให้มองโน่นนี่นั่นแล้วก็จบ แต่ว่าคุณควรมีนักออกแบบหรือวิศวกรก่อสร้างที่มีความชำนิชำนาญมาร่วมตรวจ ซึ่งควรจะหาคนกลางมาเอง แม้กระนั้นถ้าหากหาไม่ได้ก็ควรมีวิศวกรฝั่งผู้รับเหมามาร่วมตรวจงานด้วย โดยบริษัทรับสร้างบ้านต้องมีรายการตรวจทานงานอย่างเห็นได้ชัด ถ้ามีอะไรที่ไม่ถูกจากที่เคยตกลงกันไว้จะต้องพร้อมปรับแก้ และก็เมื่อตรวจสอบจนแน่ใจว่าบ้านของคุณเพอร์เฟ็คแล้ว แล้วก็ค่อยจ่ายเงินงวดสุดท้ายเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยสิ้นการส่งมอบงาน
(https://img2.pic.in.th/pic/36329fdde7ded4a85f8.jpg)
การเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน เป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับเพื่อการดำเนินแผนการก่อสร้างบ้านที่ปลอดภัย และมีคุณภาพสูง
เพราะฉะนั้น นี่คือ 10 ข้อเสนอแนะที่สามารถจะช่วยในกรรมวิธีการเลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่เหมาะสม
(https://img2.pic.in.th/pic/37949779f91dac649a4.jpg)
1. เล่าเรียน รวมทั้งทำความเข้าใจเกี่ยวกับบริษัท: เล่าเรียนข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทรับสร้างบ้านที่คุณสนใจ ซึ่งรวมทั้งประวัติความเป็นมาของบริษัท และผลงานที่เคยทำมาก่อนหน้า
ยิ่งกว่านั้นคุณยังสามารถอ่านรีวิวจากลูกค้าก่อนหน้านี้เพื่อแน่ใจว่าบริษัทมีความน่าไว้วางใจ รวมทั้งมีความรู้และความเข้าใจสำหรับเพื่อการทำงานได้อย่างมีคุณภาพ
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/45843b2f14de85eec7.jpg)
2. ตรวจทานความถูกต้องแน่ใจทางกฎหมาย: ตรวจดูว่าบริษัทมีใบอนุญาต และการจดทะเบียนที่ไม่ผิดกฎหมายเพื่อให้มั่นใจว่าคุณได้ทำธุรกิจกับบริษัทที่ถูกต้อง รวมทั้งยุติธรรม
(https://img2.pic.in.th/pic/8735e501fc253eebb0.jpg)
3. มอง แล้วก็เทียบราคา: ขอใบเสนอราคาจากบริษัทที่คุณพินิจพิเคราะห์ แม้กระนั้นอย่าให้ราคาเป็นเพียงส่วนประกอบเดียวสำหรับในการตัดสินใจ เทียบราคากับคุณภาพ และก็บริการที่กำลังจะได้รับ
4. ตรวจดูประวัติการปฏิบัติงาน: มองผลงานที่เคยทำของบริษัทรับสร้างบ้านในสมัยก่อน ดูภาพถ่าย หรือเยี่ยมชมสถานที่โดยตรง เพื่อคุณได้ตรึกตรองคุณภาพของงานจากบริษัทที่มีประสบการณ์สำหรับในการจัดการ
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/2262dd462b1e37b7acf.jpg)
5. ไต่ถาม และสร้างเสริมความมั่นใจ: ติดต่อสื่อสารกับบริษัทเพื่อไต่ถามรายละเอียดอื่นๆ ควรจะถามเรื่องช่วงเวลาสำหรับเพื่อการดำเนินแผนการ การติดต่อสื่อสาร แล้วก็การแก้ไขปัญหา คุณควรรู้ว่าบริษัทนั้นพร้อมจะให้การช่วยเหลือ และก็คำปรึกษาที่ดีตลอดขั้นตอนการก่อสร้าง
6. ความชำนิชำนาญในด้านที่คุณสนใจ: สำรวจความเชี่ยวชาญของบริษัทรับสร้างบ้านในด้านที่คุณอยากได้ อาจเป็นการก่อสร้างบ้านพื้นฐานในหลากหลายขนาดบ้าน เลือกบริษัทที่มีความชำนาญ รวมทั้งประสบการณ์ที่เกี่ยวเนื่องเพื่อให้สำเร็จลัพธ์ที่อยากได้
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/100-23475a9fdd896f73d.jpg)
7. คุณภาพอุปกรณ์ และก็เทคโนโลยี: ถามไถ่ว่าบริษัทใช้สิ่งของ แล้วก็เทคโนโลยีที่ได้มาตรฐานไหม การใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูงจะช่วยให้ได้รับผลิตภัณฑ์ที่ทนทาน และคงทนต่อการใช้งานในระยะยาว
8. ช่วงเวลา แล้วก็การส่งมอบ: ถามเกี่ยวกับระยะเวลาที่บริษัทรับ
สร้างบ้านสามารถก่อสร้างบ้านให้สำเร็จ แล้วก็การส่งมอบงานภายในระยะเวลาที่ระบุ
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/45843b2f14de85eec7.jpg)
9. การรับประกันคุณภาพ: สอบถามเกี่ยวกับการยืนยันคุณภาพของงาน ว่าบริษัทมีการรับประกันคุณภาพงานสร้างบ้านหลังการมอบไหม แล้วก็ช่วงเวลาการยืนยันเป็นเท่าใด
10. การตรวจตราเอกสาร และสัญญา: ตรวจตรารายละเอียดในคำสัญญารับเหมาก่อสร้างที่จะต้องทำกับบริษัทรับสร้างบ้าน และอ่านเอกสารให้รู้เรื่องให้ดีก่อนที่จะเซ็นชื่อในข้อตกลง ถ้าเกิดมีคำถามหรือไม่เข้าใจ ควรสอบถาม แล้วก็เสวนากับบริษัทรับสร้างบ้านให้เข้าใจถูกต้องตรงกันทั้งสองฝ่าย
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/100-23475a9fdd896f73d.jpg)
สรุป การเลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่สมควรเป็นแนวทางการที่จะต้องใช้เวลา และก็ความละเอียดรอบคอบ เนื่องด้วยการสร้างบ้านเป็นโครงงานที่ใช้เวลานาน และมีความหมาย
ดังนั้นคุณควรทำการศึกษา และก็การสำรวจให้ถี่ถ้วน เพื่อให้คุณสามารถเลือกบริษัทที่สมควร และก็มีคุณภาพที่สุดสำหรับเพื่อการก่อสร้างบ้าน (https://www.warinaxis.com/)ของคุณเอง
โดยควรจะใช้เวลาในการพินิจพิจารณา รวมทั้งประเมินตัวเลือกที่มีอยู่ พร้อมกระทำเทียบสิ่งที่คุณอยากให้ครบถ้วนสูงที่สุด และก็เลือกใช้บริษัทรับสร้างบ้านที่เข้ากันได้กับความจำเป็น รวมทั้งความหวังของคุณ
อย่าลืมสำรวจคำสัญญาที่เจาะจงข้อจำกัด แล้วก็รายละเอียดต่างๆเพื่อแน่ใจว่าคุณเข้าใจ รวมทั้งเห็นด้วยข้อแม้ทั้งผองก่อนที่จะลงลายมือชื่อ
การมีข้อตกลงที่เด่นชัด เป็นสิ่งสำคัญที่จะสร้างความเชื่อมั่นและมั่นใจ และคุ้มครองป้องกันปัญหาในอนาคต