(https://freelydays.com/wp-content/uploads/2023/03/7-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B8%A5-696x364.jpg)หากคุณเป็นคนอีกคนหนึ่งที่ถูกใจ คิดมาก เพ้อเจ้อ ขี้กังวลใจ กับความประพฤติปฏิบัติไปซะทุกเรื่อง
จนกระทั่งทำให้จำเป็นต้องคับอกคับใจอยู่เสมอๆพวกเรามีแนวทางมาเสนอแนะที่จะสามารถช่วยให้คุณลดความไม่ค่อยสบายใจ คิดมาก หรือ ฟุ้งซ่านลงได้
1. พิจารณาความคิดของตนเอง
สาระสำคัญที่สุดของแนวทางการทำคือ การปลดปล่อยให้ความคิดของคุณลอยผ่านไป
แทนที่จะไปยึดติดอยู่กับมันหรือพย าย ามที่จะหยุดคิดมัน การฝึกฝนสมาธิแบบก้าวหน้าสติเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณ
หยุดหมกมุ่นกับเรื่องในอดีตได้ โดยให้ท่านทดลองสังเกตการณ์ความนึกคิดของตนเอง
ดูว่าตัวเองกำลังวิตกกังวลอยู่กับเรื่องอะไร แล้วก็ จะแก้ไขปัญหาได้อย่ างไร แทนที่จะลงไปหมกมุ่นอยู่กับมัน
ทดลองนั่งอยู่เฉยๆแล้วดูความคิดของตัวเองมอง คุณจะทราบเลยว่าความคิดมันไร้ขอบเขตจริงๆ
และเวลาที่คุณพย าย ามทำให้มันนิ่ง ก็มีแต่ว่าจะห่วยแตกลงเท่านั้น แต่จิตใจของคุณจะสงบลงเองเมื่อเวลาผ่านไปครู่หนึ่ง
รวมทั้ง เมื่อจิตใจของคุณสงบแล้วมันก็จะมีช่องว่างสำหรับในการยอมรับฟังสิ่งที่วิจิตรบรรจงเพิ่มขึ้น
2. เขียนความนึกคิดของตัวเอง
อีกวิธีนึง ที่จะสามารถช่วยหยุดความคิดฟุ้งซ่านของคุณ ก็คือ การระบายให้กับผู้ที่มีมุมมองแนวทางคิดแตกต่างกัน
ไปจากคุณได้ฟัง หรือ จะใช้วิธีเขียนระบายความคิดของตัวลงไปในกระดาษแทนก็ได้
เพราะว่า การเขียนทำให้เราคิดอย่ างเป็นระบบมากยิ่งขึ้น ถ้าคุณเก็บความคิดพวกนั้นไว้แม้กระนั้นในหัว
นอกจากมันจะไปสุมกันจนเป็นภูเขามันยังส่งผลให้คุณวนกลับมาคิดเรื่องเดิมซ้ำอยู่อย่ างนั้นไม่จบสิ้น
3. ระบุช่วงสำหรับ "การหยุดใช้สมอง"
การกำหนดเวลา "หยุดใช้สมอง" ช่วยห้ามไม่ให้คุณหมกมุ่นกับปัญหาอย่ างใดอย่ างหนึ่งมากเกินความจำเป็น
เป็นต้นว่า การไม่คิดเกี่ยวกับเรื่องย ากๆข้างหลังเวลาสองทุ่มเพื่อไม่ให้มันมารบกวนเวลาเข้านอนหลับ
มีข้อเสนอแนะว่าให้แบ่งเวลาไว้ราวๆ 20 นาทีต่อวัน ในการสะท้อนความคิดของตน
ข้างในยี่สิบนาทีนี้ ปล่อยให้ตนเองกังวล ครุ่นคิด เพ้อเจ้อได้สุดกำลังตามปรารถนา แล้วพอหมดเวลา
ก็ให้เปลี่ยนไปทำสิ่งอื่นที่เป็นประโยชน์กว่า ถ้าเกิดคุณเริ่มคิดมากนอกช่วงเวลาที่กำหนดไว้เมื่อไร
ก็ให้เตือนตัวเองว่า ค่อยเอาเก็บไปคิดในเวลาที่ระบุดีกว่า
4. เบี่ยงเบนความนึกคิดของตนเอง
ฟังดูง่ายๆแม้กระนั้นที่แท้การเขียนจ่อกับสองสิ่งไปพร้อมกันนี่มันย ากนะ
ทดลองบริหารร่างกายหรือเล่นเกมมองเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองกำลังคิดมากเพื่อสร้างสมดุลระหว่างอารมณ์รวมทั้งร่างกาย
ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญหลายท่านก็เห็นด้วยกับแนวทางนี้หมายถึงให้หากิจก ร ร มที่เบี่ยงเบนความสนใจของคุณ
ซึ่งควรเป็นกิจก ร ร มที่ใช้อีกทั้งร่างกาย ความนึกคิด และก็ การร่วมเล่นกับคนอื่นๆ ดังเช่นว่า เทนนิส หรือการไปเที่ยวกับเพื่อนฝูงสักคน
5. จุดโฟกัสที่สิ่งที่ทำเป็นในตอนนี้
อีกหนึ่งทางแก้นิสัยคิดมากก็คือ เลิกคิดแล้วลงมือกระทำอย่ าไปจุดโฟกัสในสิ่งที่คุณจำเป็นต้องทำ สิ่งที่ยังไม่ได้ทำ หรือ
แม้แต่สิ่งที่เกิดขึ้นรอบกาย แต่ให้พุ่งความพึงพอใจไปในที่สิ่งซึ่งสามารถทำเป็นในขณะนี้ก็พอ
ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กมากแค่ไหนก็ตาม รวมทั้งลงมือกระทำมันซะ อย่างงี้ครั้งใดก็ตามเราเป็นห่วง
ถึงปัญหาในเรื่องอะไรก็แล้วแต่พวกเราก็จะสามารถทำให้มันออกมาเป็นรูปเป็นร่างมากเพิ่มขึ้น
6. เคารพข้อคิดเห็นของตัวเอง
เหตุที่คุณยังคงคิดมากจนถึงไม่ยอมตัดสินใจส่วนหนึ่งส่วนใดอาจเกิดขึ้นจากคุณไม่เชื่อว่าตัวเองจะตัดสินใจเลือกสิ่งที่ถูก
ควรเรียนรู้ที่จะเคารพนับถือข้อคิดเห็นของตนเองยิ่งคิดมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งลังเลในความนึกคิดของตนเองมากมายแค่นั้น
7. คุณสามารถเปลี่ยนการตัดสินใจที่บกพร่องได้
คือเรื่องธรรดาที่จะกังวลใจว่าคุณเลือกงานไม่ถูก สมรสกับผู้ที่ไม่ใช่สำหรับตนเอง หรือแม้กระทั้งขับขี่รถกลับไปอยู่ที่บ้านผิดทาง
แต่ข้อผิดพลาดก็ไม่ได้นำมาซึ่งหายนะเสมอไป แถมยังเป็นช่องทางให้ได้ศึกษาและก็เติบโตขึ้นด้วย
คุณไม่จำเป็นที่จะต้องมาวิตกกังวลหรือกลุ้มใจกับความบกพร่องเลย แล้วก็ ให้รู้เรื่องไว้ว่าความคิดเห็นหรือวิชาความรู้ของ
คุณนั้นมันเปลี่ยนได้เสมอตามกาลเวลา แล้วคุณจะรู้สึกสงบรวมทั้งเป็นอิสระจากด้านในอย่ างโดยความเป็นจริง
วิตกกังวล (https://freelydays.com/13411/)
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13411/